เทศกาลลอยกระทงปี 2568 กลับมาสร้างความสุขและความคึกคักให้คนไทยอีกครั้ง หลังจากหลายปีที่เงียบเหงาเพราะเศรษฐกิจและสถานการณ์โรคระบาด ปีนี้ทั่วประเทศต่างจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยา เชียงใหม่ สุโขทัย อยุธยา พัทยา ภูเก็ต และจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ เต็มไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศที่ออกมาร่วมเฉลิมฉลองคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง
เสียงหัวเราะของครอบครัว เสียงเพลงพื้นบ้าน และแสงเทียนจากกระทงนับล้านใบสะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งวัฒนธรรมไทยที่ยังคงเปล่งประกายอย่างอบอุ่นไม่เสื่อมคลาย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานจนหลายพื้นที่ต้องขยายจุดจัดงานเพิ่มเติม
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเผยว่า ปีนี้มีนักท่องเที่ยวทั่วประเทศกว่า 5.8 ล้านคน สร้างรายได้รวมกว่า 15,200 ล้านบาท ถือเป็นสัญญาณบวกที่ยืนยันว่าการท่องเที่ยวไทยกำลังกลับมาแข็งแกร่งอย่างเต็มรูปแบบ
ย้อนรอยความหมายแห่งเทศกาลลอยกระทง
“ลอยกระทง” เป็นประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดมายาวนานกว่า 700 ปี มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงความขอบคุณและขอขมาพระแม่คงคา เทพีแห่งสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนไทยมาแต่โบราณ รวมถึงเป็นการปล่อยวางสิ่งไม่ดีในชีวิต เพื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม
ตำนานเล่าว่าเกิดขึ้นในสมัยสุโขทัย โดย “นางนพมาศ” หรือนางสนมในราชสำนัก ได้ประดิษฐ์กระทงดอกบัวลอยน้ำถวายพระร่วงเจ้า เป็นที่มาของพิธีกรรม “ลอยกระทง” ที่กลายเป็นประเพณีประจำชาติสืบมาจนปัจจุบัน
นอกจากความเชื่อทางศาสนาแล้ว ลอยกระทงยังเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความผูกพัน และความสามัคคีในครอบครัว หลายคู่รักใช้โอกาสนี้ขอพรความสัมพันธ์ให้มั่นคง ขณะที่คนโสดก็อธิษฐานขอให้เจอคนที่ใช่ในคืนเดือนเพ็ญ
จังหวัดยอดนิยมที่คนแน่นทุกปี
-
กรุงเทพมหานคร:
บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานพระราม 8 เอเชียทีค และสวนลุมพินี เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ งาน “Bangkok River Festival” ปีนี้จัดใหญ่กว่าทุกปี มีการแสดงดนตรี แสงสีเสียง และพลุไฟสุดตระการตา -
สุโขทัย:
งาน “เผาเทียนเล่นไฟ” ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ยังคงเป็นไฮไลต์ระดับโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่ชมความงามของแสงเทียนที่สะท้อนกับโบราณสถานอายุกว่า 700 ปี -
เชียงใหม่:
“ยี่เป็งเชียงใหม่” สวยงามไม่แพ้ปีใด โคมลอยนับหมื่นดวงลอยขึ้นฟ้าเหนือแม่น้ำปิง สร้างภาพที่งดงามจับใจจนติดอันดับหนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวที่โรแมนติกที่สุดในโลก -
อยุธยา:
งานย้อนยุคแต่งชุดไทยลอยกระทงริมแม่น้ำป่าสัก นักท่องเที่ยวร่วมแต่งชุดไทยย้อนยุค ถ่ายภาพกับโบราณสถานที่เรืองแสงจากเทียนนับพันเล่ม -
ภูเก็ต – พัทยา:
นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่ลอยกระทงชายหาดอย่างคึกคัก พร้อมกิจกรรมดนตรีสดและตลาดกลางคืนที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างมหาศาล
สีสันทางเศรษฐกิจ: เมื่อรอยยิ้มคืนสู่ผู้ประกอบการ
ปีนี้การจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลลอยกระทงเพิ่มขึ้นกว่า 38% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ร้านอาหาร ร้านขายกระทง ตลาดน้ำ และโรงแรมต่าง ๆ รายงานยอดจองเต็มตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน
ผู้ค้ากระทงรายหนึ่งในเชียงใหม่เผยว่า “ปีนี้ขายดีสุดในรอบ 5 ปี ขายกระทงหมดตั้งแต่หัวค่ำ” สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจฐานรากที่ขับเคลื่อนด้วยงานประเพณีไทยแท้
ในส่วนของผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว การจองโรงแรมในจังหวัดท่องเที่ยวหลักเต็มเกือบ 100% โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม 3–4 ดาว ซึ่งเป็นตัวเลือกยอดนิยมของครอบครัวและนักเดินทางต่างชาติ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย: ลอยกระทงปีนี้คือ “จุดเปลี่ยน” ของวัฒนธรรมเชิงเศรษฐกิจ
ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) เผยว่า เทศกาลลอยกระทงปีนี้เป็น “ตัวอย่างความสำเร็จ” ของแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพราะสามารถผสานเอกลักษณ์ไทยกับประสบการณ์ท่องเที่ยวสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
กิจกรรมเด่นที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว ได้แก่
-
การแสดงแสงสีเสียงเรื่อง “สุโขทัยรุ่งอรุณแห่งอารยธรรม”
-
โคมลอยยี่เป็งปลอดภัยที่เชียงใหม่
-
ลอยกระทงรักษ์โลกในกรุงเทพฯ และพัทยา
-
ตลาดกลางคืนวัฒนธรรมพื้นบ้านในอยุธยาและอุบลราชธานี
ทุกพื้นที่ร่วมรณรงค์ใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง ขนมปัง และหยวกกล้วย เพื่อช่วยลดขยะในแม่น้ำและสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
เทคโนโลยีกับลอยกระทงยุคใหม่
ปีนี้ยังเห็นแนวโน้มใหม่อย่าง “ลอยกระทงออนไลน์” ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของภาครัฐและเอกชน ผู้คนสามารถพิมพ์คำอธิษฐานและลอยกระทงเสมือนจริงได้ในไม่กี่คลิก สะดวก ปลอดภัย และไม่ก่อขยะ
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัว “กระทงโซลาร์เซลล์” ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อส่งเสริมแนวคิดรักษ์โลกในงานลอยกระทงทั่วประเทศ ถือเป็นการประยุกต์เทคโนโลยีเข้ากับวัฒนธรรมไทยได้อย่างชาญฉลาด
กระแสออนไลน์: ลอยกระทงปีนี้อบอุ่นและโรแมนติกที่สุดในรอบทศวรรษ
ในโลกโซเชียล แฮชแท็ก #ลอยกระทง2568 #LoyKrathong2025 และ #FullMoonFestival ขึ้นเทรนด์อันดับต้น ๆ ตลอดทั้งคืน ผู้คนโพสต์ภาพคู่รัก ลอยกระทงครอบครัว และภาพบรรยากาศสุดโรแมนติกทั่วประเทศ
สื่อออนไลน์ต่างประเทศอย่าง CNN Travel และ Lonely Planet ยังกล่าวถึงเทศกาลลอยกระทงของไทยว่า “เป็นหนึ่งใน 10 เทศกาลแห่งแสงที่สวยที่สุดในโลก” ช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกต่อการท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง
ลอยกระทงปีนี้ ไม่ใช่แค่การขอขมา แต่คือการคืนชีวิตให้กับสังคม
สิ่งที่โดดเด่นของปีนี้ไม่ใช่แค่จำนวนคนเที่ยว แต่คือ “ความรู้สึก” ของผู้คนที่ได้กลับมามีความสุขร่วมกันอีกครั้ง หลายครอบครัวบอกว่า นี่คือปีแรกที่ทุกคนได้กลับมาลอยกระทงพร้อมหน้าอีกครั้งหลังจากหลายปีที่ต้องอยู่ห่างกัน
“เราไม่ได้ลอยแค่กระทง แต่ลอยความทุกข์ในปีเก่าออกไปด้วย”
คำพูดของหญิงวัยกลางคนในสุโขทัยสะท้อนหัวใจของเทศกาลนี้ได้ดีที่สุด
สรุป: ลอยกระทง 2568 คือสัญญาณแห่งการฟื้นฟูไทยทั้งประเทศ
จากค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงเทียนและเสียงหัวเราะ ปีนี้ประเทศไทยพิสูจน์ให้เห็นว่า “วัฒนธรรมคือพลังทางเศรษฐกิจ” ที่สามารถขับเคลื่อนทั้งรายได้ การท่องเที่ยว และความสุขของผู้คนได้พร้อมกัน
ลอยกระทง 2568 ไม่ได้เป็นเพียงงานประเพณี แต่คือ “เครื่องยืนยันว่าความเป็นไทยยังคงงดงาม” และพร้อมต้อนรับโลกด้วยรอยยิ้ม ความอบอุ่น และศรัทธาที่ไม่เคยจางหาย
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
-
ถาม: ลอยกระทงปี 2568 ตรงกับวันไหน?
ตอบ: ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งเป็นวันเพ็ญเดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย -
ถาม: จังหวัดใดมีการจัดงานลอยกระทงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด?
ตอบ: สุโขทัย, เชียงใหม่, กรุงเทพฯ, อยุธยา และพัทยา เป็นจุดหมายยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปมากที่สุด -
ถาม: ปีนี้มีรายได้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเท่าใด?
ตอบ: เพิ่มขึ้นกว่า 35–40% จากปีที่ผ่านมา สร้างรายได้รวมกว่า 15,000 ล้านบาท -
ถาม: มีมาตรการลดขยะกระทงหรือไม่?
ตอบ: ทุกจังหวัดรณรงค์ใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง ดอกไม้ และขนมปัง พร้อมจัดจุดทิ้งกระทงให้ถูกวิธี -
ถาม: ต่างชาติให้ความสนใจกับลอยกระทงไทยอย่างไร?
ตอบ: สื่อต่างประเทศยกย่องลอยกระทงของไทยว่าเป็น “เทศกาลแห่งแสงที่โรแมนติกที่สุดในเอเชีย” ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง -
ถาม: คนรุ่นใหม่ยังคงให้ความสำคัญกับการลอยกระทงหรือไม่?
ตอบ: มากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน ที่มองว่าลอยกระทงคือโอกาสปล่อยวางสิ่งไม่ดีและขอพรเริ่มต้นสิ่งใหม่
