ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับชิป Qualcomm Snapdragon 8 Elite Gen 5

Qualcomm ได้เปิดตัวระบบบนชิป (SoC) ระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับมือถือ นั่นคือ Qualcomm Snapdragon 8 Elite Gen 5 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะขับเคลื่อนสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ส่วนใหญ่ของฝั่ง Android ในปีหน้า และนี่คือทุกสิ่งที่เราทราบเกี่ยวกับขุมพลังตัวนี้

การเปลี่ยนชื่อที่ทำให้ตัวเลขสมเหตุสมผล

 

ชิปตัวนี้เคยถูกตั้งชื่อเดิมว่า Snapdragon 8 Elite 2 เพื่อสืบทอดจากรุ่น Snapdragon 8 Elite ที่อยู่ในโทรศัพท์เรือธงอย่าง Samsung Galaxy S25 Ultra แต่เพื่อจัดระเบียบตัวเลขให้เข้าใจง่ายขึ้น Qualcomm ได้ตัดสินใจข้ามตัวเลขหลายรุ่น และกระโดดไปใช้ชื่อ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ทันที ซึ่งสอดคล้องกับความเป็นจริงที่ว่านี่คือชิปเจนเนอเรชันที่ห้าในตระกูล Snapdragon 8

 

สเปกและนวัตกรรมใหม่ที่สำคัญ

 

แม้จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ยังมีข้อมูลบางส่วนที่เป็นปริศนา เช่น Qualcomm ไม่ได้ระบุชื่อ GPU อย่างชัดเจน แต่ยืนยันว่าเป็น GPU ตระกูล Adreno

รายละเอียด ข้อมูล
ชื่อรุ่น SM8850-AC
ขนาดสถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตร (3nm)
จำนวนคอร์ 2 Prime Cores และ 6 Performance Cores
ความถี่สูงสุด 4.6 GHz (สองคอร์) และ 3.62 GHz (หกคอร์)
แคช (Cache) 24MB
GPU Adreno GPU (ความเร็ว 1.2 GHz) พร้อม Adreno High Performance Memory (HPM) 18MB
NPU (AI) Hexagon NPU ใหม่ พร้อม Qualcomm Sensing Hub ที่อัปเกรด
ISP (ประมวลผลภาพ) Qualcomm Spectra AI
โมเด็ม Qualcomm X85 5G Modem-RF
การเชื่อมต่อ Qualcomm FastConnect 7900 (Wi-Fi, Bluetooth, UWB)

สิ่งที่เห็นได้ชัดคือความเร็วสัญญาณนาฬิกา (Clock Speed) สูงสุดที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน รวมถึงการอัปเกรดโมเด็มเป็น X85 และการปรับปรุงเทคโนโลยีหลัก ๆ อย่าง GPU และ NPU ให้ทำงานได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ระบบการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth, และ UWB ยังคงใช้ FastConnect 7900 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับปี 2025

ฮาร์ดแวร์ใหม่นี้ยังนำมาซึ่งคุณสมบัติใหม่ เช่น การรองรับโคเดก Advanced Professional Video (APV) และ GPU Adreno ใหม่ที่เปิดใช้งานเทคโนโลยี Mesh Shading ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาเกมบนมือถือสามารถเรนเดอร์กราฟิกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

 

Qualcomm สัญญาว่าจะมีการยกระดับประสิทธิภาพอย่างน่าพอใจ แม้ว่าตัวเลขเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามอุปกรณ์จริง แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดี:

  • CPU: เพิ่มประสิทธิภาพ Single-core 20% และ Multi-core 17% รวมถึงการตอบสนองที่เร็วขึ้น 32%
  • GPU และหน่วยความจำ: ประสิทธิภาพ GPU เพิ่มขึ้น 23% และประหยัดพลังงานขึ้น 20% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Ray Tracing เร็วขึ้น 25% นอกจากนี้หน่วยความจำ HPM ใหม่ยังเร็วกว่าเดิม 38%
  • AI และ 5G: ประสิทธิภาพ NPU (หน่วยประมวลผล AI) สูงขึ้น 37% ทำให้การประมวลผล AI บนตัวเครื่องดีขึ้นมาก สามารถจัดการคำสั่ง AI ได้ถึง 220 โทเคนต่อวินาที (จากเดิม 70 โทเคน) และโมเด็มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ก็ประหยัดพลังงานลง 40%

ผลการทดสอบเบนช์มาร์กจากหลายสำนักแสดงให้เห็นว่าคะแนน Geekbench 6 เป็นไปตามที่ Qualcomm อ้างไว้ และดีพอที่จะเทียบเคียงกับชิป Apple A19 Pro เลยทีเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทั้งสองแพลตฟอร์มได้มาถึงจุดที่ประสิทธิภาพใกล้เคียงกันแล้ว

 

กำหนดการวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ

 

แม้ว่าผู้ใช้ทั่วไปอาจจะไม่สังเกตเห็นความเร็วที่เพิ่มขึ้นในการใช้งานพื้นฐาน เช่น การเลื่อนหน้าจอ แต่พวกเขาจะสัมผัสได้ถึง ประสิทธิภาพแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น ส่วนผู้ใช้งานหนัก เช่น เกมเมอร์ จะสังเกตได้อย่างแน่นอนว่าเกมทำงานที่ FPS คงที่และเสถียรยิ่งขึ้น ในขณะที่แบตเตอรี่ลดลงน้อยกว่าเดิม

ชิปตัวนี้คาดว่าจะถูกนำไปใช้ในสมาร์ทโฟน Android เรือธงรุ่นถัดไป โดยที่ OnePlus ได้ประกาศแล้วว่า OnePlus 15 ที่กำลังจะมาถึงจะใช้ชิป Elite Gen 5 มีข่าวลือว่า OnePlus 15 จะเปิดตัวทั่วโลกในเดือนตุลาคม และจะเข้าถึงตลาดอเมริกาเหนือเร็วกว่าปกติ อาจจะช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะทำให้ OnePlus 15 เป็นโทรศัพท์เครื่องแรกในอเมริกาเหนือที่ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 8 Elite Gen 5


คุณคิดว่าการเพิ่มประสิทธิภาพ AI ในชิปมือถือจะกลายเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้บริโภคหรือไม่?

ข้อมูลจาก https://sea.mashable.com/

Author: samapeat

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *